"พลายมหามงคล ช้างมงคล ตระกูลอัคนีพงศ์"
เสริมโชคลาภและความก้าวหน้าในอาชีพ

            ช้างไทยถือเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะ "ช้างมงคล" ซึ่งมีลักษณะพิเศษและได้รับการยกย่องว่าเป็นช้างศักดิ์สิทธิ์ที่นำพาโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง และความเป็นสิริมงคลมาสู่ผู้ที่ได้ครอบครองหรือเคารพบูชา ผลงานประติมากรรม “พลายมหามงคล” แห่งตระกูลอัคนีพงศ์ ซึ่งเป็นช้างที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธาและความรุ่งเรือง

            ในไตรดายุคหนึ่ง ขณะที่พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์บรรทมอยู่ ณ เกษียรสมุทร บังเกิดมีดอกบัวผุดขึ้นทางพระนาภีของพระองค์ ดอกบัวนั้นมี ๘ กลีบ ๑๗๓ เกสร พระวิษณุนำดอกบัวไปถวายพระอิศวรครั้งนั้นพระอิศวรแบ่งดอกบัวอันบังเกิดด้วยเทวฤทธิ์ของพระวิษณุออกเป็น ๔ ส่วน จัดเป็นส่วนของพระองค์เอง ๘ เกสร นอกนั้นแบ่งประทานแก่ พระพรหม ๘ กลีบ พร้อมกับเกสรอีก ๒๔ เกสร ประทานแก่พระวิษณุ ๘ เกสร และประทานแก่พระอัคนี ๑๓๓ เกสร เทพเจ้าทั้งสี่ได้เนรมิตดอกบัวในแต่ละส่วนของพระองค์ให้บังเกิดเป็นช้างขึ้นในโลก ปรากฏเป็นคชพงศ์ หรือ ช้างตระกูลต่าง ๆ ๔ ตระกูล แต่ละตระกูลมีชื่อตามนามเทพเจ้าผู้เนรมิตให้บังเกิดขึ้น คชพงษ์ทั้ง ๔ ตระกูล เมื่อได้กำเนิดขึ้นแล้ว ต่างก็มีรูปร่างลักษณะ อุปนิสัย และส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เป็นไปตามฤทธิ์และอำนาจที่ได้รับถ่ายทอดมาจากเทพเจ้าผู้เนรมิตให้บังเกิดขึ้น

           ตำราพระคชศาสตร์ ได้กล่าวถึงการกำเนิดช้างมงคล และแบ่งช้างมงคลเป็น 4 ตระกูล ตามนามแห่งเทพเจ้าผู้ให้กำเนิด คือ

            ช้างตระกูลพรหมพงศ์ พระพรหมเป็นผู้สร้าง ช้างตระกูลนี้เมื่อมาสู่พระบารมีย่อมให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางวัตถุและวิทยาการต่างๆ

            ช้างตระกูลอิศวรพงศ์ พระอิศวรเป็นผู้สร้าง ช้างตระกูลนี้เมื่อมาสู่พระบารมีบ้านเมืองจะมีความเจริญรุ่งเรืองด้วยทรัพย์และอำนาจ

            ช้างตระกูลวิษณุพงศ์ พระวิษณุเป็นผู้สร้าง ช้างตระกูลนี้เมื่อมาสู่พระบารมีย่อมมีชัยชนะแก่ศัตรู ฝนจะตกต้องตามฤดูกาล ผลาหารธัญญาหารจะบริบูรณ์

            ช้างตระกูลอัคนีพงศ์ พระอัคนีเป็นผู้สร้าง ช้างตระกูลนี้เมื่อมาสู่พระบารมีบ้านเมืองจะเจริญด้วยมังสาหารและมีผลในทางระงับศึกอันพึงจะเกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นแล้ว ทั้งมีผลในทางระงับความอุบาทว์ทั้งปวงอันเกิดแก่บ้านเมือง

ตระกูลอัคนิพงศ์

            เมื่อพระอัคนีได้รับประทานเกสรดอกบัวจากพระอิศวรแล้ว ได้โยนเกสรดอกบัวทั้งหมดลงบนพื้นโลก เนรมิตให้บังเกิดเป็นช้างวรรณะศูทร โดยแบ่งส่วนเกสรจำนวน ๔๗ เกสรให้ บังเกิดเป็นคชชาติอัคนิพงศ์ศุภลักษณ์ ๔๗ หมู่เกสรดอกบัวอีก ๘๑ เกสร ให้บังเกิดเป็นคชชาติอัคคนิพงศ์ทุรลักษณ์ หรืออัปลักษณ์ ๘๑ หมู่ ส่วนเกสรดอกบัวที่เหลือก็เนรมิตให้บังเกิดเป็นคชชาติอัคนิพงศ์ทุรโทษ ๕ หมู่ และอัคคนิพงศ์ลหุโทษ ๗ หมู่

            คชชาติอัคนิพงศ์ศุภลักษณ์ เป็นช้างที่สมบูรณ์ด้วยลักษณะแห่งวรรณะ กล่าวคือ มีผิวหนังกระด้าง เส้นขนหยาบ ขนมีสีเดียวกับสีตัว หน้าเป็นกระเล็กๆ สีแดงเสมอกันเหมือนแววนกยูงดูงดงาม หน้างวงแดง ปากแดง นัยน์ตาสีน้ำผึ้ง หูแดง ตะเกียบหูห่าง ขนหูหยาบ งาสีแดงเรื่อ ๆ สันหลังแดง หางสั้นเขิน เท้าทั้ง ๔ ข้างใหญ่เรียว มีรอยรัดข้อเท้า ฝักบัวกลม เส้นขนหางกลมละเอียดดูงาม สีกายหม่น ไม่ดำสนิท

ลักษณะพิเศษของพลายมหามงคล

            พลายมหามงคล เป็นช้างที่มีลักษณะตรงตามตำราว่าด้วยช้างมงคล กล่าวกันว่ามีหนอกหน้าสูง ดวงตาเป็นประกาย และมีงาสวยงามสมบูรณ์แบบ ลักษณะดังกล่าวถูกเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายของพลังอำนาจและความโชคดี นอกจากนี้ พลายมหามงคลยังเป็นช้างที่มีความฉลาด สุขุม และจงรักภักดีต่อควาญช้างของตน

ตำนานและความเชื่อเกี่ยวกับพลายมหามงคล

            เชื่อกันว่าพลายมหามงคลเป็นช้างที่นำพาความสำเร็จและความมั่นคงมาสู่เจ้าของหรือสถานที่ที่อาศัยอยู่ ด้วยเหตุนี้ นักธุรกิจ นักการเมือง และผู้ที่แสวงหาความเจริญก้าวหน้าจึงนิยมมาสักการะและขอพรจากพลายมหามงคลเพื่อเสริมดวงชะตา นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าการได้สัมผัสงาหรือหางของพลายมหามงคลจะช่วยเสริมบารมีและนำพาความโชคดีมาให้

ช้างกับพระราชวงศ์ไทย

            ช้างมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยจุดเริ่มต้นของอารยธรรมไทยตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 13 นั้น ช้างถือเป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่สมัยราชอาณาจักรสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี จวบจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ในปัจจุบัน โดยสำหรับชาวไทย ช้างเป็นสัตว์ที่สูงส่ง มีความชาญฉลาดและคู่ควรกับการดำรงตำแหน่งเคียงข้างพระมหากษัตริย์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะช้างเผือกที่ได้รับเลือกให้เป็นช้างในพระราชพิธีต่าง ๆ เนื่องจากเป็นช้างที่หายากและมีสถานภาพที่ศักดิ์สิทธิ์ ช้างเผือกจึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งพระราชอำนาจของกษัตริย์ โดยขอบเขตอำนาจของพระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ขึ้นอยู่กับจำนวนช้างเผือกที่ทรงครอบครอง ช้างเผือกที่ได้รับเลือกให้เป็นช้างคู่พระบารมีจะถูกคัดเลือกจากสายพันธุ์ที่ดีที่สุดและต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน

ช้างกับพระพุทธศาสนา

            ช้างมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยจุดเริ่มต้นของอารยธรรมไทยตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 13 นั้น ช้างถือเป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่สมัยราชอาณาจักรสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี จวบจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ในปัจจุบัน โดยสำหรับชาวไทย ช้างเป็นสัตว์ที่สูงส่ง มีความชาญฉลาดและคู่ควรกับการดำรงตำแหน่งเคียงข้างพระมหากษัตริย์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะช้างเผือกที่ได้รับเลือกให้เป็นช้างในพระราชพิธีต่าง ๆ เนื่องจากเป็นช้างที่หายากและมีสถานภาพที่ศักดิ์สิทธิ์ ช้างเผือกจึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งพระราชอำนาจของกษัตริย์ โดยขอบเขตอำนาจของพระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ขึ้นอยู่กับจำนวนช้างเผือกที่ทรงครอบครอง ช้างเผือกที่ได้รับเลือกให้เป็นช้างคู่พระบารมีจะถูกคัดเลือกจากสายพันธุ์ที่ดีที่สุดและต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน

ความหมายในทางฮวงจุ้ย

            ช้างเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ มีนิสัยที่เป็นมิตรและไม่ดุร้ายเนื่องจากช้าง เป็นสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหารจึงไม่คุกคามชีวิตสัตว์โลกอื่นๆ ในทางด้านของฮวงจุ้ยนำช้างมาใช้ในเรื่องของความสูงใหญ่ เปรียบเป็นภูเขาสูงใหญ่ที่มั่นคง ตามหลักของฮวงจุ้ย โต๊ะทำงานของผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการควรอิงผนังทึบและเรียบ เพื่อให้เกิดความมั่นคง แต่ถ้าเกิดว่าสถานที่ทำงานนั้นไม่เอื้ออำนวยจำเป็นต้องนั่งอิงด้านที่เป็นหน้าต่างกระจก ควรจะปิดผ้าม่านให้ทึบและวางรูปปั้นช้างไว้ที่ด้านหลังที่นั่ง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ช้างเพื่อสลายพลังปราณชี่พิฆาตได้ด้วย เช่นห้องทำงานที่มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม บังคับให้ต้องนั่งอิงมุมสามเหลี่ยมซึ่งหมายถึงความไม่มั่นคง และมุมแหลมทิ่มแทงเป็นปราณชี่พิฆาต ในกรณีนี้ก็สามารถนำรูปปั้นช้างมาใช้ได้เช่นกัน และช้างยังเป็นสัญลักษณ์ ของความสำเร็จ ความสมบูรณ์ ให้กับชีวิตตนเอง ครอบครัว และผู้ที่ครอบครอง

ลักษณะของช้างมงคล

            ช้างมงคลที่เป็นมงคลตามคติความเชื่อไทยนั้น จะต้องมีลักษณะดังนี้

รูปร่างสมบูรณ์ : สมบูรณ์ทั้ง 32 ประการ เช่น งาคู่ยาวสมสัด หางยาว เท้าใหญ่ เดินตัวตรง ฯลฯ
ท่าทาง : ช้างมงคลที่เป็นมงคล นิยมแกะสลักหรือปั้นเป็นท่าทางต่างๆ ดังนี้
ยืน : หมายถึงความมั่นคง แข็งแรง หนักแน่น
นั่ง : หมายถึงความสงบ สุขุม ร่มเย็น
นอน : หมายถึงความสุขสมบูรณ์ อิ่มเอมใจ
ไหว้ : หมายถึงการขอพร อวยพร ให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้น

ความหมายมงคลของช้างมงคล

โชคลาภเงินทอง : เชื่อกันว่าช้างเป็นสัตว์ที่มีบุญ นำพาโชคลาภเงินทองมาสู่ผู้บูชา
อำนาจวาสนา : ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ แข็งแรง สง่างาม สื่อถึงอำนาจ บารมี เกียรติยศ
ความสำเร็จ : ช้างมักถูกใช้ในพิธีสำคัญต่างๆ สื่อถึงความสำเร็จ ความเจริญรุ่งเรือง
ความแคล้วคลาดปลอดภัย : เชื่อกันว่าช้างเป็นสัตว์ที่มีพลังอำนาจ ช่วยปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตราย
ความมีสติ : ช้างเป็นสัตว์ที่มีความฉลาด รู้จักคิด สื่อถึงความมีสติ ปัญญา ความรอบคอบ

การนำช้างมงคลมาประดับตกแต่ง

            นิยมนำรูปปั้นช้างมงคลมาประดับตกแต่งบ้าน ร้านค้า หรือสถานที่สำคัญต่างๆ เพื่อเป็นสิริมงคล ดึงดูดโชคลาภ เงินทอง และความสุข โดยมีวิธีการวางดังนี้

หน้าบ้าน : วางช้างหันหน้าเข้าบ้าน เชื่อกันว่าจะนำโชคลาภ เงินทอง เข้าสู่บ้าน
โต๊ะทำงาน : วางช้างไว้บนโต๊ะทำงาน เชื่อกันว่าจะช่วยให้ทำงานราบรื่น ประสบความสำเร็จ
ห้องนอน : วางช้างไว้ที่หัวเตียง เชื่อกันว่าจะช่วยให้นอนหลับฝันดี
สวน : วางช้างไว้ในสวน เชื่อกันว่าจะช่วยเสริมฮวงจุ้ย ให้บ้านร่มเย็นเป็นสุข

ความหมายในการมอบช้างมงคลเป็นของขวัญ

            1.สัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งและความสำเร็จ
            ช้างเป็นสัตว์ที่มีพลังและความอดทน การมอบช้างมงคลเป็นการอวยพรให้ผู้รับมีพลังใจและความสามารถที่จะก้าวข้ามอุปสรรค และประสบความสำเร็จในชีวิต
            2.ความมั่นคงและเจริญรุ่งเรือง
            ช้างเป็นตัวแทนของความมั่นคง เช่นเดียวกับฐานะและชีวิตที่มั่นคง การมอบช้างมงคลจึงสื่อถึงคำอวยพรให้ผู้รับมีชีวิตที่มั่นคง เจริญก้าวหน้า และร่ำรวย
            3.โชคลาภและความโชคดี
            ช้างมงคลมักถูกออกแบบด้วยลักษณะที่สื่อถึงการนำโชค เช่น งวงช้างที่ยกขึ้น หมายถึงการรับโชคลาภหรือดูดทรัพย์สินเงินทอง
            4.ความเป็นมงคลในครอบครัวและความสัมพันธ์
            ช้างถือเป็นสัตว์ที่รักครอบครัวและดูแลกันอย่างใกล้ชิด การมอบช้างมงคลจึงสะท้อนถึงคำอวยพรให้ครอบครัวของผู้รับมีความรัก ความอบอุ่น และความสามัคคี
            5.ความเคารพและอำนาจ
            ในวัฒนธรรมไทย ช้างเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์และอำนาจ การมอบช้างมงคลเป็นการแสดงความเคารพและให้เกียรติแก่ผู้รับ

            พลายมหามงคล แห่งตระกูลอัคนีพงศ์ ไม่เพียงแต่เป็นช้างที่มีลักษณะพิเศษตามตำราช้างมงคล แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธา ความรุ่งเรือง และความมั่นคงที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยความสำคัญทั้งในด้านวัฒนธรรมและความเชื่อ ทำให้พลายมหามงคลเป็นช้างที่ได้รับความเคารพและศรัทธาอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติอีกด้วย