"ประติมากรรมหลวงปู่ทวด"
ศิลปะแห่งศรัทธา เสริมแคล้วคลาดและโชคลาภ

หลวงปู่ทวด ถือเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับความเคารพบูชามากที่สุดในประเทศไทย ด้วยชื่อเสียงในด้านความศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะการป้องกันภัยจากอันตราย และเสริมดวงชะตา ทำให้พระเครื่องหลวงปู่ทวดเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในหมู่ผู้นับถือศาสนาและนักสะสมพระเครื่อง
ประวัติหลวงปู่ทวด หรือ สมเด็จเจ้าพะโคะ
หลวงปู่ทวด มีชื่อเดิมว่า “ปู” หรือ “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2125 ที่บ้านสวนฉาง อ.สทิงพระ จ.สงขลา ท่านเป็นผู้มีจิตใจเมตตาและมีความสามารถด้านวิปัสสนากรรมฐาน ตั้งแต่อายุยังน้อย ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร และมีความขยันขันแข็งในการศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย จนได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีความรู้และคุณธรรมสูงยิ่ง
ในรัชสมัยตอนปลายของพระมหาธรรมราชา แห่งกรุงศรีอยุธยา หรือเมื่อประมาณ 400 ปีที่ผ่านมา ณ หมู่บ้านสวนจันทร์ ตำบลชุมพล ได้มีทารกเพศชายถือกำเนิดจากครอบครัวเล็กๆ ซึ่งเป็นบุตรของนายหู และนางจัน มีนามเดิมว่า “ปู” มีฐานะยากจน แต่มีจิตใจอันเป็นกุศล ชอบทำบุญทำทาน ยึดมั่นในศีลธรรม และไม่เบียดเบียนใคร ไม่ว่าจะมนุษย์ด้วยกันหรือสัตว์ทั้งหลาย
เมื่อท่านเกิดมาแล้วก็มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นกับท่านเรื่อยมา เป็นต้นว่า ขณะที่ท่านอยู่ในวัยแบเบาะในช่วงฤดูเกี่ยวข้าวบิดามารดาของท่านต้องออกไปเกี่ยวข้าวที่กลางทุ่งนาซึ่งเป็นนาของเศรษฐีปาน ซึ่งท้องนาแห่งนั้นห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ที่นาแห่งนั้นมีดงตาลและมะเม่าเป็นจำนวนมากครั้งนั้นจึงเรียกว่าทุ่งเม่า ปัจจุบันตั้งเป็นสำนักสงฆ์ชื่อนาเปล ในสมัยนั้นจึงมีสัตว์ป่าชุกชุมพอสมควร บิดามารดาของท่านจึงผูกเปลของท่านซึ่งเป็นเปลผ้าไว้กับต้นมะเม่าสองต้นและก็ได้เกี่ยวข้าวอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้น พอได้ระยะเวลาที่นางจันทร์ต้องให้นมลูก นางจันทร์จึงเดินมาที่ที่ปลูกเปลของลูกน้อย และก็เห็นงูจงอางตัวใหญ่หรืองูบองหลาที่ชาวภาคใต้เรียกกันพันที่รอบเปล นางจันทร์เห็นแล้วตกใจเป็นอันมากจึงเรียกนายหูซึ่งอยู่ไม่ไกลนักมาดูและช่วยไล่งูจงอางนั้น แต่งูจงอางนั้นก็ไม่ไปไหน นายหูและนางจันทร์จึงตั้งสัตยาธิฐานว่าขออย่าให้งูนั้นทำร้ายลูกน้อยเลย ไม่นานนักงูจงอางนั้นก็คลายวงรัดออกและเลื้อยหายไปในป่านายหูและนางจันทร์จึงเข้าไปดูลูกน้อยเห็นว่ายังหลับอยู่และไม่เป็นอันตรายใด ๆ และปรากฏว่ามีเมือกแก้วขนาดใหญ่ที่งูจงอางคลายไว้อยู่บนอกเด็กชายปูนั้น เมือกแก้วนั้นมีแสงแวววาวและต่อมาได้แข็งตัวเป็นลูกแก้ว ปัจจุบันได้ประดิษฐานที่วัดพะโคะ เมื่อเศรษฐีปานทราบเรื่องเข้าก็บีบบังคับขอลูกแก้วเอาจากนายหูและนางจันทร์ บิดามารดาของท่านจึงจำต้องยอมให้ลูกแก้วนั้นแก่เศรษฐีปานซึ่งเป็นนายเงิน แต่ลูกแก้วนั้นเป็นของศักดิ์สิทธิประจำตัวท่าน เมื่อเศรษฐีปานเอาลูกแก้วไปแล้วก็เกิดเภทภัยในครอบครัวเกิดการเจ็บป่วยกันบ่อย และมีฐานะยากจนลง เศรษฐีปานจึงได้เอาลูกแก้วมาคืนและขอขมาเด็กชายปู และยกหนี้สินให้แก่นายหูและนางจันทร์ ทั้งสองจึงพ้นจากการเป็นทาสและต่อมาก็มีฐานะดีขึ้น ๆ ส่วนเศรษฐีปานก็มีฐานะดีขึ้นดังเดิม
เมื่อท่านมีอายุได้ประมาณ 7 ขวบ พ.ศ. 2132 บิดามารดาของท่านจึงนำท่านไปฝากไว้เป็นศิษย์วัดเพื่อเล่าเรียนหนังสือ ที่วัดกุฎิหลวงหรือวัดดีหลวงในปัจจุบัน ซึ่งเป็นวัดอยู่ใกล้บ้านท่าน ขณะนั้นมีท่านสมภารจวง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ เด็กชายปูเป็นเด็กที่หัวดีเรียนเก่งสามารถเล่าเรียนภาษาขอมและภาษาไทยได้อย่างรวดเร็ว สมภารจวงได้บวชให้ท่านเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 15 ปี ตอนที่ท่านบวชเป็นสามเณรนี้เองบิดาของท่านจึงถวายลูกแก้วคืนให้แก่ท่านเป็นลูกแก้วประจำตัวท่านต่อไป
ด้วยความที่เป็นคนใฝ่เรียนใฝ่รู้ตลอดเวลาของท่าน ต่อมาท่านสมภารจวงได้นำไปฝากให้เล่าเรียนหนังสือที่สูงขึ้นสมัยนั้นเรียกว่ามูลบทบรรพกิจ ปัจบันก็คือเรียนนักธรรมนั่นเอง โดยนำไปฝากเรียนไว้กับสมเด็จพระชินเสน ซึ่งเป็นพระเถระชั้นสูงที่ส่งมาจากกรุงศรีอยุธยา ให้มาครองเป็นเจ้าอาวาสวัดสีคูยังหรือวัดสีหยังในปัจจุบัน ห่างจากวัดดีหลวงไปทางเหนือประมาณ 4 กิโลเมตร ท่านได้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและจบหลักสูตรที่วัดสีคูยังนั้น หลังจากนั้นท่านได้เดินทางเข้ามาศึกษาต่อที่เมืองนครศรีธรรมราชเพื่อเรียนหนังสือให้สูงขึ้น โดยมาพำนักอยู่ที่วัดเสมาเมือง ซึ่งเป็นสำนักเรียนและมีสมเด็จพระมหาปิยะทัสสี เป็นเจ้าอาวาส และบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุครบกาลอุปสมบท ท่านได้ศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ จนมีความรู้และเป็นผู้ทรงอภิญญามาก และได้แสดงปาฏิหาริย์หลายครั้ง ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากสมเด็จพระเอกาทศรถในครั้งสุดท้ายในราชทินนามที่ สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์ สุดท้ายเมื่อท่านมีอายุได้ 80 ปี ท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดพะโคะ วัดบ้านเกิดของท่าน ต่อมาท่านได้สั่งเสียกับลูกศิษย์ว่าเมื่อท่านมรณภาพให้นำพระศพท่านไปไว้ที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ต่อไปสถานที่ข้างหน้าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้คนมาเที่ยว
หนึ่งในตำนานที่ทำให้หลวงปู่ทวดเป็นที่เลื่องลือ คือเหตุการณ์ที่ท่านเหยียบน้ำทะเลแล้วกลายเป็นน้ำจืด ทำให้ผู้คนรอดพ้นจากความกระหายน้ำขณะเดินทางทางเรือ ซึ่งกลายเป็นที่มาของฉายา “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด”
อานิสงค์ของการบูชาหลวงปู่ทวด
การบูชาหลวงปู่ทวดนั้น มีความหมายลึกซึ้งทางจิตใจและจิตวิญญาณ โดยเฉพาะในด้านของ “การป้องกันภัย” ไม่ว่าจะเป็นภัยทางร่างกาย อุบัติเหตุ หรือภัยอันตรายจากสิ่งที่ตามองไม่เห็น เช่น วิญญาณ หรือคุณไสย นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่า การบูชาหลวงปู่ทวดช่วยเสริมดวง ให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ค้าขายรุ่งเรือง และชีวิตปลอดภัยจากอุปสรรค โดยมีอานิสงค์ต่างๆ ดังนี้
แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตราย: เชื่อกันว่าหลวงปู่ทวดมีพุทธคุณคุ้มครองป้องกันภัย ช่วยให้ผู้บูชาแคล้วคลาดปลอดภัยจากอุบัติเหตุ ไฟไหม้ ภัยพิบัติ หรืออันตรายต่างๆ
โชคลาภ: เชื่อกันว่าหลวงปู่ทวดสามารถช่วยเสริมดวงชะตาให้ผู้บูชา มีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา
ความเจริญรุ่งเรือง: เชื่อกันว่าหลวงปู่ทวดสามารถช่วยส่งเสริมให้ผู้บูชาประสบความสำเร็จในชีวิต หน้าที่การงานราบรื่น มีเกียรติยศชื่อเสียง
สติปัญญา: เชื่อกันว่าหลวงปู่ทวดสามารถช่วยให้ผู้บูชาฉลาดหลักแหลม คิดอ่านสิ่งใดก็สำเร็จ มีปัญญาแก้ไขปัญหาต่างๆ
ขจัดอุปสรรค: เชื่อกันว่าหลวงปู่ทวดสามารถช่วยขจัดอุปสรรค ปัญหาต่างๆ ในชีวิต ให้ราบรื่น
จากคำเล่าลือที่เล่าต่อกันมาว่าใครก็ตามที่ได้บูชาหลวงปู่ทวด โดยการสวดคาถาบูชาหลวงปู่ทวดเป็นประจำทุกวัน หรือการที่จะเดินทางไม่ว่าจะขึ้นรถ ลงเรือ ขึ้นเครื่องบิน ก็จะช่วยให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง หรือใครที่กำลังติดต่อการค้าธุรกิจสำคัญ ๆ ก็จะเกิดโชคลาภประสบความสำเร็จในการเจรจา ค้าขายรุ่งเรืองอย่างไม่ขาดสาย ด้วยอนุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดนั้นจึงทำให้หลายคนนิยมบูชาหลวงปู่ทวด เพื่อให้บารมีของท่านคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย ช่วยปกป้องจากภัยอันตราย ๆ ที่จะเกิดขึ้น

ความหมายของการมอบหลวงปู่ทวดเป็นของขวัญมงคล
การมอบหลวงปู่ทวดเป็นของขวัญมงคล ถือเป็นการมอบสิ่งของที่มีความหมายดี แสดงถึงความปรารถนาดี และส่งเสริมสิริมงคลแก่ผู้รับ เนื่องด้วยหลวงปู่ทวดเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาที่เลื่องชื่อ ผู้คนส่วนใหญ่เคารพศรัทธา และเชื่อกันว่าท่านมีพุทธคุณคุ้มครองป้องกันภัย แคล้วคลาดปลอดภัย เสริมดวงชะตา โชคลาภเงินทอง เมตตามหานิยม ความเจริญรุ่งเรือง สติปัญญา ป้องกันคุณไสย และช่วยให้จิตใจสงบ การมอบ หลวงปู่ทวด เป็นของขวัญมงคลนั้น ถือเป็นสิ่งที่ ดีเยี่ยม ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1.ความศรัทธา
หลวงปู่ทวด เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาที่ ชาวไทยเคารพศรัทธา มาอย่างยาวนาน เชื่อกันว่าท่านมี พุทธคุณ คุ้มครองป้องกันภัย แคล้วคลาดปลอดภัย เสริมดวงชะตา โชคลาภเงินทอง เมตตามหานิยม ความเจริญรุ่งเรือง สติปัญญา และป้องกันคุณไสย การมอบหลวงปู่ทวดเป็นของขวัญ จึงเปรียบเสมือนการ มอบสิ่งมงคล มอบสิ่งที่ดี ให้กับผู้รับ แสดงถึงความปรารถนาดี และความห่วงใย
2.คุณค่าทางจิตใจ
องค์หลวงปู่ทวด เป็นผลงานประติมากรรมที่ทรงคุณค่าทางจิตใจ เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นกำลังใจ ให้กับผู้สวมใส่ การมอบหลวงปู่ทวดเป็นของขวัญ จึงเป็นการมอบกำลังใจให้กับผู้รับ ช่วยให้พวกเขามีความสุข มีความสบายใจ และมีพลังในการดำรงชีวิต
3.ของขวัญที่ระลึก
องค์หลวงปู่ทวด ยังเป็นของขวัญที่ระลึก ที่มีคุณค่า สามารถเก็บไว้ได้นาน เป็นสิ่งที่ผู้รับสามารถจดจำ และนึกถึงผู้ให้ได้เสมอ
4.เหมาะกับทุกโอกาส
การมอบหลวงปู่ทวดเป็นของขวัญ เหมาะกับทุกโอกาสไม่ว่าจะเป็นวันเกิด ปีใหม่ สงกานต์ งานเกษียญ หรือโอกาสพิเศษอื่นๆ
วิธีการบูชากรมหลวงชุมพร
เพื่อให้การบูชาหลวงปู่ทวดเกิดผลอย่างเต็มที่ ควรปฏิบัติดังนี้:
1.ตั้งใจด้วยจิตศรัทธา
ความเชื่อมั่นเป็นพื้นฐานสำคัญของการบูชา
2.ตั้งหิ้งพระในที่เหมาะสม
หิ้งพระควรอยู่ในที่สูง สะอาด ไม่ใกล้ห้องน้ำหรือห้องครัว
3.สวดมนต์บูชาเป็นประจำ
คาถาบูชาหลวงปู่ทวดที่นิยม:
“นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา”
หรือสวดบท “อิติปิโสฯ” เพื่อเสริมพลังจิตใจ
4.หมั่นทำบุญและรักษาศีล
เพื่อส่งเสริมพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ให้เกิดผลดีต่อชีวิต
หลวงปู่ทวดไม่ใช่เพียงตำนานแห่งความศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเป็นศูนย์รวมของศรัทธา ความเมตตา และการปกปักรักษา ผู้ที่ศรัทธาท่านจะได้รับพลังใจอันยิ่งใหญ่ในการดำเนินชีวิต ด้วยเหตุนี้ หลวงปู่ทวดจึงยังคงเป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและต่างชาติ